11 May
11May

ชาวบ้าน บุกถ้ำเขาหนองกรวยช้างพิสูจน์ดวงไฟประหลาดเปลี่ยนสี เจอ เลขเด็ดเซียมซี

ชาวบ้าน บุกถ้ำเขาหนองกรวยช้างพิสูจน์ดวงไฟประหลาดเปลี่ยนสี เจอ เลขเด็ดเซียมซี
ชาวบ้าน บุกถ้ำเขาหนองกรวยช้างพิสูจน์ดวงไฟประหลาดเปลี่ยนสี เจอ เลขเด็ดเซียมซี

ชาวบ้าน บุกถ้ำเขาหนองกรวยช้างพิสูจน์ดวงไฟประหลาดเปลี่ยนสี เจอ เลขเด็ดเซียมซี ชาวบ้านผิดหวังปากถ้ำปิดสนิท แต่ได้เลขเด็ด “เจ้าพ่อเขาหนองกรวยช้าง” มาแทน เผยตำนานเมืองลับแลน่าพิศวง

เหตุการณ์ที่ชาวบ้านหมู่ 3, หมู่ 7 และหมู่ 14 ต.รางบัว จ.ราชบุรี หลายสิบคน พบเห็นดวงไฟประหลาดเปลี่ยนสีได้ ลอยวูบวาบอยู่เหนือยอดไม้กลางทุ่งนา และหายเข้าไปในเชิงเขาหนองกรวยช้างโดยลักษณะดวงไฟลอยขึ้นสูงต่ำเปลี่ยนเป็น สีส้ม สีเขียว สีแดง และสีขาวได้ ทำให้มีชาวบ้านจากพื้นที่ต่างๆ ต่างพากันมาพิสูจน์ว่าดวงไฟดังกล่าวเป็นอะไรกันแน่

ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 ต.รางบัว นายกล้า แก้วพฤกษ์ พร้อมชาวบ้านในพื้นที่กว่า 20 คน ได้พาผู้สื่อข่าวขึ้นไปสำรวจบริเวณถ้ำเขาหนองกรวยช้าง แต่เมื่อมาถึงหน้าปากถ้ำ ก็พบว่าปากถ้ำนั้นถูกปิดไม่สามารถเข้าไปพิสูจน์ภายในถ้ำได้

โดยที่ พบแต่เพียงคราบงูมีพิษขนาดใหญ่อยู่รอบๆ ทางเข้าถ้ำ ซึ่งบริเวณปากถ้ำมีศาลเจ้าพ่อเขากรวยช้างตั้งอยู่ และยังพบกระบอกเซียมซีวางไว้โดยไม้เซียมซีมีเลขติดไว้ด้วย สำหรับให้ชาวบ้านที่ขึ้นมากราบไหว้ขอโชคลาภ แต่เนื่องจากชาวบ้านไม่ค่อยกล้าขึ้นมาบริเวณนี้ และศาลมีสภาพเก่าทำให้เลขที่เขียนไว้ที่ไม้เซียมซีถูกปลวกกัดกินจนแทบจะมองตัวเลขไม่เห็น

เลขเซียมซี"เจ้าพ่อเขาหนองกรวยช้าง
เลขเซียมซี”เจ้าพ่อเขาหนองกรวยช้าง

เหลืออยู่เพียงเลข 5 เลข 19 และเลข 13 ที่ยังมีสภาพสมบูรณ์ ชาวบ้านที่ขึ้นไปสำรวจต่างถ่ายรูปไว้แล้วนำไปโพสต์ลงเฟซบุ๊ก ทำให้ชาวบ้านที่รู้ข่าวต่างพากันไปหาซื้อเลขเด็ด 19, 13, 519 และ 513 กันจำนวนมาก

ทางด้านของ นางลำใย ภูบาน อายุ 61 ปี ชาวบ้านหมู่ 3 ต.รางบัว เล่าให้ฟังว่าบริเวณเขาหนองกรวยช้าง มีเรื่องลี้ลับมากมาย ซึ่งตนและชาวบ้านในหมู่บ้านได้เจอมากับตัวแล้วหลายครั้ง แต่สมัยปู่ย่าตายายได้เล่าให้ฟังว่า

ได้เล่าว่า ตั้งแต่สมัยเมื่อสงครามไทยกับพม่า บริเวณดังกล่าวเป็นจุดยุทธศาสตร์ในการส่งเสบียงของทหารพม่าเมื่อเข้ามาตีทหารไทย แต่ทหารพม่าไม่สามารถส่งเสบียงให้กำลังทหารพม่าที่เข้ามารุกประเทศไทยได้ เนื่องจากอิทธิฤทธิ์ของเจ้าพ่อเขาหนองกรวยช้าง ทำให้ทหารพม่าต้องล่าถอยกลับบ้านเมืองไป เมื่อ 300 ปีที่ผ่านมา

มีความเชื่อสืยต่อกันมาว่า เป็นประตูสู่เมืองลับแล ตามเรื่องเล่าของคนเก่าคนแก่บอกว่า มีสามีภรรยาอยู่คู่หนึ่ง อยู่กินด้วยกันจนมีลูกชายวัย 2 ขวบ ในเมืองลับแล วันหนึ่งฝ่ายภรรยาได้ออกไปหาผลไม้ และให้สามีเป็นคนดูแลลูกชาย แต่ลูกชายร้องไห้หาแม่ไม่ยอมหยุด จนฝ่ายสามีต้องปลอบลูกชายว่า “อย่าร้องไห้ อีกเดี๋ยวแม่เจ้าก็กลับมาแล้ว”

ได้รู้ถึงหูของชาวบ้านคนหนึ่ง ได้ยินฝ่ายสามีพูดโกหกลูกชายแบบนั้น จึงนำเรื่องไปแจ้งผู้ดูแลเมืองลับแล ซึ่งเมืองลับแล มีกฎว่า ห้ามทุกคนในเมืองลับแลพูดโกหก จึงสั่งลงโทษฝ่ายสามี โดยไล่ให้ออกไปจากเมืองลับแล ห้ามกลับเข้ามาในเมืองลับแลอีก

ทางของภรรยารู้สึกเสียใจมาก เพราะรักสามียิ่งกว่าชีวิต จึงไปแอบหักกิ่งขมิ้นใส่ถุงย่ามไว้เต็มถุงย่ามให้ฝ่ายสามี เพื่อให้สามีทิ้งกิ่งขมิ้นไว้ตามพื้นก่อนออกพ้นประตูถ้ำเมืองลับแล เพื่อยามใดคิดถึงลูกเมีย จะได้เดินตามกิ่งขมิ้นกลับมาเยี่ยมลูกกับเมียถูก

ทางฝั่งของสามีออกเดินทางไปได้ไม่ถึงไหนก็รู้สึกเหนื่อยเพราะถุงย่ามที่ใส่กิ่งขมิ้นหนักมาก จึงเทกิ่งขมิ้นทิ้ง เหลือไว้เพียง 6 กิ่ง ก่อนจะออกเดินทางต่อ และทำสัญลักษณ์ไว้กับต้นไม้แทน เพื่อจะได้จำทางกลับได้ แต่เมื่อพ้นประตูเมืองลับแล หรือ ปากถ้ำเขาหนองกรวยช้าง ฝ่ายสามีจึงหันหลังกลับไปดู พบว่าไม่มีประตูเมืองลับแลอยู่แล้ว

ตอนที่ได้เปิดในถุงย่ามจึงเห็นว่ากิ่งขมิ้นที่ฝ่ายภรรยาหักมาใส่ให้ในถุงย่าม กลับกลายเป็นทองคำ แต่ฝ่ายสามีต้องการจะกลับไปหาภรรยา และลูกชายที่เมืองลับแลให้ได้ จึงตั้งหลักปักฐานอยู่บริเวณเชิงเขาหนองกรวยช้าง แต่ก็ไม่สามารถกลับเข้าไปในเมืองลับแลได้

เฝ้าจนเสียชีวิตจนกลายเป็นดวงจิตที่ค่อยเฝ้าปากถ้ำเขาหนองกรวยช้าง เมื่อทุกคนเข้าไปใกล้จะถูกดวงจิตขับไล่ออกมา เพื่อป้องกันประตูเมืองลับและปกป้องสมบัติไว้ ไม่ให้ใครล่วงรู้หรือมาขโมยเอาไป

 

เรียบเรียงโดย    หวยเด็ดหวยดัง

Comments
* The email will not be published on the website.
I BUILT MY SITE FOR FREE USING